รู้สึกอ่อนล้าเว่อร์กับภาษาอังกฤษช่วงนี้เลยจ้า เกริ่นก่อนว่าตอนนั้นด่วนจริงๆ เจอปัญหางานติดต่อลูกค้าต่างชาติไม่ได้ เรียนพิเศษก็แพง หนังสือเล่มหนาเท่าฝ่ามือก็ท้อ เลยดั้นด้นไปเสิร์ชเจอ7 วิธีเร่งรัดนี้แหละ ทั้งมั่นใจทั้งตื่นเต้น
เริ่มจากวิธีแรก แอพเรียนภาษา ดาวน์โหลดมาเพียบเลยยย แบบครบทุกตัวที่เขาแนะนำ แอพสีสดใส มีเกมให้เล่นน่าเรียนมาก…แรกๆ กดทุกวันตามเวลาเป๊ะ ผ่านไปอาทิตย์นึงเริ่มเลื่อนนัด เริ่มลืม แอพก็รกโทรศัพท์ พอเห็นการแจ้งเตือนกองเท่าภูเขาก็ขี้เกียจเปิดแล้วอ่ะ อาทิตย์ที่สามถอดใจ ลบเกือบหมด เหลือไว้แค่สองตัวที่โทรมากๆ
วิธีสอง ท่องศัพท์วันละสิบคำ! ตั้งเป้าแบบฮึกเหิม เปิดดิกหาคำสวยๆ พิมพ์ใส่การ์ดสีเหลืองน่ารัก จำได้ตั้งแต่วันแรกจนถึง…วันที่สาม พอเจอศัพท์ที่มันคล้ายๆ กันนี่เละเทะ พอท่องไปสักสัปดาห์ ปัญหาคือจำความหมายได้ แต่ใช้ไม่เป็น อัดบทสนทนาสั้นๆ มา มันก็ยังแยกไม่ออกว่าตอนไหนควรใช้คำไหน ตกม้าตายเหมือนกัน

พักยก แล้วลุยต่อใหม่
รู้สึกแป้กก็พักไปสองวัน ตัดสินใจลองวิธีที่สามกับสี่คู่กัน ดูหนังฟังเพลง + หาแฟนคลับต่างชาติ! เลือกซีรี่ส์ซิตคอมง่ายๆ ที่ชอบดูซ้ำอยู่แล้วนี่แหละ เปิดซับอังกฤษ (อันนี้สำคัญมากกก) ตอนแรกเปิดซับไทยไว้ก่อนด้วย ดูไปงงไป แอบดูซับไทยตลอด พอขยับมาอังกฤษล้วน ปวดหัวทันที อึดอัดฟังไม่ทัน เข้าใจคำนึงทิ้งไปห้าคำ มองภาพเฉยๆ ไม่ได้อะไรเลยจ้ะ ส่วนแฟนคลับนี่มันสนุกนะ แต่ชวนแชททีไร เขาพิมพ์กลับมาเหมือนเป็นภาษาต่างดาว! สองวิถีนี้ออกจะหิน
วิธีห้า ที่ว่าให้หา partner ก็พยายามนะ ไปเกาะกลุ่มคนไทยฝึกพูดกันในกลุ่มออนไลน์…กลายเป็นเม้าท์เรื่องอื่นแทน 5555 ส่วนกลุ่มคนต่างชาตินี่ความกดดันมันแรง แค่ทักทายก็คิดตั้งนานว่าประโยคนี้มันถูกไหมนะ พี่เขาไม่ตอบคืนนี้เพราะอะไร กลัวผิดจนไม่กล้าพูด พูดจริงจังกับเพื่อนต่างชาติได้แค่รอบสองรอบก็จบ
- วิธีหก บันทึกเสียงตัวเองเนี่ย อายตัวเองสุดๆ พอฟังเสียงตัวเองพูดอังกฤษแล้ว หนีบหูฟังอยู่นั่นแหละ หน้าแดงเหมือนฝั่งรั้ว ฝึกได้แป๊บเดียวเลิก
- วิธีเจ็ด อันนี้ทำเรื่อยเปื่อยดี เล่นเกมภาษาไทยปกติ แต่เปลี่ยนภาษาในเกมเป็นอังกฤษ แรกๆ มึนนิดนึง แต่พอคุ้นตา พอจะเดาความหมายได้จากเนื้อเรื่องในเกม ไม่ได้ทรมานเหมือนดูหนัง
จุดพลิกที่เจอโดยบังเอิญ
ผ่านไปเดือนนึ่ง เริ่มเหนื่อยละ รู้สึกว่าเร่งไม่ได้ดั่งใจเลย ไม่เก่งขึ้นสักที จนวันหนึ่งเลิกกดดันตัวเอง ไปเจอบล็อกฝรั่งคนนึงเขาเขียนเล่าเรื่องชีวิตประจำวัน ง่ายๆ ใช้ศัพท์ไม่ยาก เลยลองอ่านดูโดยไม่ง้อดิก ดูว่าเราเข้าใจหรือไม่ ไม่เน้นจำ ไม่เน้นเอามาท่อง แค่อ่านเพลินๆ เหมือนอ่านเฟซบุ๊กเพื่อน บางทีอ่านข้อความในเกมบ้าง เล็กๆ น้อยๆ พอเข้าใจก็ดีใจเล็กๆ ทำบ่อยขึ้นจากวันละไม่กี่นาที กลายเป็นวันละครึ่งชั่วโมง เป็นชั่วโมง…
สามเดือนผ่านไป ตื่นมาอ่านอะไรสักหน่อย จนวันนึงไปเซเว่น เห็นฝรั่งถามพนักงานว่า “ยาลดไข้” ยาวาไร แต่พนักงานเขางง นึกว่าเขาจะซื้อยาแผล! มันพังพ้น เลยเผลอไปบอกพนักงานว่า “เขาเอา fever!” เหมือนหยุดคิดไม่ได้ แถมฝรั่งหันมายิ้มให้! อ้าวว คราวนี้เรากล้าพูดโต้ตอบเขาเองแล้ว แม้จะถามว่าเขาคอแห้งอยากดื่มน้ำด้วยไหม มันจะเวอร์ไปมั้ย แต่ก็พอใจเว่อร์ที่ได้เจอจุดเปลี่ยนแปลงนี้กับตา!
คิดว่าสำคัญสุดคือหาวิธีที่เราทำได้จริง ทำแล้วไม่ท้อ ใช้ภาษาให้มันเป็นเรื่องของชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ใช่ทิ้งไปก็ลืม หัวเราะได้กับความผิดพลาดตัวเองได้ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบทุกคำ พอเข้าใจว่าอันนี้คือเครื่องมือช่วยสื่อสาร ไม่ใช่ข้อสอบวัดเกรด เลยผ่อนคลายแล้วก็ค่อยๆ พอเข้าใจมากขึ้นนั่นแหละ.