วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์สอนพิเศษอังกฤษตัวต่อตัวครับ ทุกอย่างเริ่มจากเพื่อนโทรมาบ่นว่าอยากเก่งภาษาอังกฤษแต่เรียนที่สถาบันแล้วไม่ไหว ครูสอนเร็วไป ไม่กล้าถามเพื่อน พอเจอปัญหาแบบนี้ เลยคิดว่าทำไมไม่ลองสอนเองดูล่ะ
เริ่มจากตั้งราคาแบบไม่แพงเกิน
ก่อนอื่นนั่งคิดเลยว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ดี เปิดดูสถาบันอื่นๆ ราคาเป็นหมื่น นี่มันเกินไปนะสำหรับค่าแรงคนไทย เลยเริ่มจากคุยกับน้องนักศึกษาที่อยากเรียนก่อน ถามตรงๆว่า “ถ้าเรียนอาทิตย์ละ 2 ครั้ง น้องจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่” จนได้ตัวเลขที่ฟังดูโอเคคือชั่วโมงละ 250 บาท แพงกว่าหมอชัย ถูกกว่าคาเฟ่ชิลๆแถวสยาม
หาคนเรียนกลุ่มแรกแบบไม่ต้องโฆษณา
สุดท้ายตั้งกลุ่มในเฟสบุ๊คง่ายๆ เขียนว่า “สอนอังกฤษตัวต่อตัว เน้นปรับตามผู้เรียน ครูใจดีไม่ดุ เรียนสนุกราคาสบายกระเป๋า” แป๊บเดียวได้คนมาเริ่ม 3 คน
- น้องม.5 อยากติวแกท
- พนักงานออฟฟิศอายุ 35 กลัวการพูด
- ลุงวัย 50 อยากไปเที่ยวต่างประเทศ
ออกแบบการสอนให้คนละแบบ
ก่อนเริ่มเรียนทุกรอบ จะนั่งคุยกับผู้เรียนก่อน 15 นาทีทุกครั้ง
กรณีพนักงานออฟฟิศ: เธอพูดว่า “ครูลองทักเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม ไม่ต้องเกรงใจ ยิ่งด่ายิ่งดี” เลยจัดเต็มสมมติเป็นเจ้านายฝรั่งให้ ด่าครั้งแรกเธอตัวสั่น พอครั้งที่ 3 เริ่มโต้กลับมาแล้ว สุดท้ายกลายเป็นคุยเรื่องแฟนซ่าๆไปใหญ่
กรณีน้องม.5: คุยเลยว่าชอบเพลงแนวไหน ปรากฏว่าติด BTS หนักมาก เลยปรับบทเรียนให้มีศัพท์ในเพลง Dynamite นี่ไงให้ท่องเป็นข้อความสั้นๆ เวลาน้องพูดผิดเราจะไม่บอกว่า “ผิด” แต่บอกว่า “คนอังกฤษอาจพูดอีกแบบนะ” แล้วช่วยแก้ให้
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้เรียน
- ผู้ใหญ่วัย 40+ ส่วนใหญ่เขินมากเวลาเรียน ไม่ใช่ไม่ตั้งใจ
- การเรียนไม่ต้องเน้นตำรา เอาสถานการณ์ในชีวิตประจำวันก่อน
- ให้เขาเลือกหัวข้อสนทนาเอง เขาจะมีส่วนร่วมกว่า
ผลที่เกิดตามมา
รุ่นแรกเรียนจบ 3 คนนี้ กลายเป็นคนรีวิวให้ฟรีๆ ทั้งนั้น น้องม.5 สอบแกทผ่าน ส่วนพนักงานออฟฟิศมาบอกว่าเพิ่งประชุมกับต่างชาติครั้งแรกในชีวิตโดยไม่ง้อล่าม ปัจจุบันมีคนต่อคิวอีก 7 คน รอเปิดรอบใหม่ แค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น
สรุปเลยคือ การเป็นครูที่ดีไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคเท่าไหร่ แค่เข้าใจว่าคนเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใจดีกับเขา เห็นเขาอายก็อย่าไปขัด แล้วผลลัพธ์จะตามมาเองครับ