ตั้งเป้าไว้ใหญ่เลย
เห็นคลิปพวกนี้บ่อยมากครับ “ภาษาอังกฤษเดือนเดียวเป๊ะ!” พวกสูตรลัดสำเนียงเป๊ะ พอเห็นเขาสัญญาหนักแบบนี้ กูก็เอามือกุมขมับแล้วคิดว่า “มึงล้อกูเล่นแน่ๆ” แต่ท้ายสุดความมันส์ก็ชนะ เลยจัดโปรแกรมชื่อดังนี่แหละ ไม่เอากันหรอก ชื่อแอพฯ ไว้ก่อน
ลงมือแบบกระโจนมุดน้ำ
- วันที่ 1-7: เปิดแอพมาก็เจอคำทักทายง่ายๆ ประมาณว่า “How are you?” มันสอนให้กูพูดตามแล้วให้อัดเสียงไป ถ้าพูดใกล้เคียงเจ้าของภาษา ปุ่มเขียวจะกระพริบ หึ! กูคิดว่ามันง่ายโคตร ตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ขนม ตอนนั้นมโนแล้วว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศแน่เป๊ะ
- วันที่ 8-15: เริ่มบึ้มแล้วครับพอเจอคำว่า “thorough” หรือ “rural” นี่พยายามอัดเสียงสามทีสี่ที เครื่องยังฟ้องว่าผิด! ตอนแรกกูยังด่าแอพว่าเวรจัด แต่พอดูคลิปตัวอย่าง พี่ฝรั่งเขาไม่พูดเร็วแบบนี้ในชีวิตจริงนิ๊ดเดียว แถมพอเห็นโครงสร้างแกรมม่านิดนึง กูปวดหัวเหมือนโดนทุบหัว
- วันที่ 16-25: เลิกเรียนแอพเดียวแล้วครับ ไปหาพอดคาสต์ฝรั่งมาเปิดฟังตอนล้างจาน ฟังแล้วงงเป็นไก่ตาแตก มันพูดติดกันเป็นพรืด! สุดท้ายต้องเอาหนังสือเก่าๆ มาเปิดดูใหม่ จำได้แค่นี้: ทำบทสนทนาไว้ประมาณ 3-4 เรื่อง เช่นการสั่งกาแฟ ถามทาง อธิบายงาน ท่องจนหนังตาตก
หมดเดือนได้อะไรบ้าง?
วันที่ 30 กูเรียกแกร็บมอเตอร์ไซค์ครับ พอฝรั่งขับมา กูสะดุดคาถาประจำตัว “Where you go?” เค้าเงียบไปสองวิแล้วถามกลับว่า “Your destination, sir?” นั่นแหละครับ ความจริงมันโหดกว่าโฆษณา ไม่ได้พูดอังกฤษคล่องในเดือนเดียว แต่ทำได้แค่:
- ฟังคำพื้นฐานแบบช้าๆ รู้เรื่องนิดหน่อย (ถ้าเค้าพูดชัดมาก)
- ตอบประโยคสั้นๆ จำพวก “Yes”, “No”, “Too expensive”
- อ่านป้าย “Exit” หรือ “Sale” ได้ไม่หลงทางเท่านั้น
สรุปแบบไม่มียางอาย
มันลวงกันชัดๆ เจ้าครับ! จะคล่องในเดือนเดียวมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าใครอ้างแบบนั้น เขาโกหกเก่งหรือเรียนมาก่อนแล้ว อัดทุกวันแบบกูก็แค่ “รอดตาย” ในสถานการณ์พื้นฐาน ไม่ต้องพูดถึงคำสแลงหรือสำเนียงเป๊ะเวอร์ ท่องไว้อย่างเดียว: อยากได้จริงต้องใช้เวลา+ลงมือทุกวัน พวกติ๊งต๊องนกแก้วนกขุนทองมันใช้ได้แค่ในแอพครับ! ถ้าจะลองก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเสียตังค์เรียนแพงๆ นี่ บอกเลยไม่คุ้มค่ากะปิแมว เดี๋ยวเดือนหน้ากูไปลองเว็บเฟรมเวิร์กใหม่ มาเล่าใหม่นะพวก!