เริ่มจากต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้อายฝุดๆเวลาเจอฝรั่งค่ะ นึกภาพดูสิ เวลาไปเที่ยวห้างแถวๆสุขุมวิท ฝรั่งเดินมาถามทาง พูดแค่ “sorry!” แล้วรีบเดินหนีเร็วสุดชีวิต ไม่กล้าสบตาเลย หน้าไม้แดงก่ำไปหมดเนี่ยะ
เผลอๆเจอคอร์สฟรีโดยบังเอิญ
อาทิตย์ก่อนเลื่อนเฟสบุ๊คไปเรื่อยๆ มือก็กดอัตโนมัติจนไปเจอโพสต์นึงนะ มันเขียนว่า “ฝึกพูดอังกฤษวันละนิด ไม่ต้องกลัวแกรมมาร์เพี้ยน” ข้อความมันตีตรงมาก ตอนนั้นนั่งยิ้มแหะๆกับมือถืออยู่คนเดียว นี่แหละปัญหาฟีลยิกกก
ลองคลิกเข้าไปดู แหมะ ฟรีจริงๆด้วย! ไม่มีบัตรเครดิต ไม่มีสมัครสมาชิกซับซ้อน แค่พิมพ์อีเมลกับชื่อเล่นก็เริ่มเรียนได้เลยนะ ใจคิดในใจ “ฟรีขนาดนี้จะมีสาระมั้ยวะ?” แต่ไหนๆก็คันมือแล้ว เลยนั่งกรอกข้อมูลทันที แค่ห้านาทีเอง ชีวิตเปลี่ยน (เวอร์ไปมั้ย 555)
แบบฝึกหัดเซอร์ไพรส์เราพ่อแม่พี่น้อง
เข้าไปเจอคลิปวีดีโอเกลียดๆแรก อ้าว? ไม่มีฝรั่งมาสอนแต่อันดะ! คนไทยสอนค่ะ ใส่เสื้อยืดธรรมดา บันทึกหน้าคอมในหอพัก นั่งชี้ปากชัดๆ ฟังแล้วเข้าใจง่ายโคตร อ้อ เหมือนเพื่อนมาสอนข้างบ้านเลย
- เค้าไม่ให้ท่องศัพท์แบบนกแก้วนะ แต่เล่าเรื่อง “เจอเพื่อนต่างชาติครั้งแรกควรพูดอะไรบ้าง” มีแต่ประโยคง่ายๆจริงๆ เช่น “Wait, my English is bad.” หรือ “Can you speak slowly?”
- มีปุ่มให้เรากดอัดเสียงตัวเองตาม! ตอนแรกหน้าเลยร้อนวูบนึง นึกว่าเรียนเงียบๆคนเดียว แต่พอหันไปดูกระจกเงียบๆ ก็กดส่งเสียงไป ผิดถูกยังไงก็ไม่มีใครได้ยิน ปรับความดังได้ด้วยนะ เราเริ่มจากเสียงเบาหวิวเลยอะ
- แอบดีใจที่มีแบบฝึกหัดให้ “พูดกับแมว” พี่แมวนี่โคตรเป็นคู่ซ้อมที่ดี ไม่จับผิด ไม่งงถ้าเราผิด เอาจริงๆเราคุยกับท้องเจ้าลูกตาปรืออยู่แล้วเนอะ 555
ลองทำแบบฝึกหัดวันแรกเนี่ย เออ 20 นาทีเองนะ แต่เหงื่อออกเต็มหลัง ใจเต้นตึกตักตลอดเวลา ทั้งๆที่อยู่คนเดียวในห้อง! นี่แหละอาการ “อายแม้กระทั่งเงา” ของโรคจิตเวชขั้นหนัก ฮ่าๆ
การบ้านแปลกแต่ได้ผลเกินคาด
ครูลงการบ้านไว้ว่าให้หา “ผู้ฟังปลอดภัย” สักคน แน่นอนเราเลือกพี่ชาย นั่งจ้องหน้ากันอยู่ห้านาทีเงียบกริบ ไม่กล้าอ้าปากสักที พี่ชายก็ทำหน้าเบื่อจนเราหัวเราะลั่นเอง พอขำปุ๊บ พูดออกปั๊บ : “I…ate cat food yesterday.” ตื่นเต้นจนเรียงผิด grammar เป๋ไปหมด แต่พี่ชายนี่ยอดเยี่ยม แทนจะหัวเราะกลับยิ้มสวนมา “Really? Me too!”
ข้ามวันไปซื้อกาแฟร้านโปรด บังเอิญเจอเทรนเนอร์ชาวต่างชาติยืนต่อคิวหน้าเรา ตอนนั้นใจจะขาดค่ะ เงยหน้ามองป้ายเมนูทั้งที่ท่องขึ้นใจแล้ว แต่พอพนักงานยิ้มถาม “What would you like to drink?” อยู่ๆก็เลื่อนประโยคที่เพิ่งฝึกออกมาด้านในสมอง “Can I get…americano, please?” ทันที พอล่นออกมาเสียงสั่นเป็นคลื่น radio แต่พนักงานก็พยักหน้ารีบปรุงชงให้!
รอเดี๋ยวนะ มันเวิร์ค! แม้จะพูดผิดถูกยังไงฝรั่งก็ทำเป็นเข้าใจ! กลับบ้านมานั่งอึ้งคนเดียวอยู่สิบนาที น้ำตาจะไหล ตอนสั่งกาแฟก็ใช้แค่สามคำเองอะ แต่เหมือนตะลุยแดนมังกรมา ทั้งเดือน!
ของฟรีของแถวก็ช่วยเราได้เหมือนกันนะ
ตอนนี้กล้าพูดผิดแล้วค่ะ ผิดยังไงก็ไม่ตาย ไม่มีใครเอารัดมาเคาะหัวเรา เป็นกำลังใจให้คนที่อายเหมือนกันเลย ใครไม่เริ่มเพราะกลัวแกรมมาร์ไม่เป๊ะ ขอบอกตรงนี้ ฝรั่งเขาเองยังพูดผิดๆถูกๆเลยนะ! ฟรีแค่ขนาดนี้ก็ยังได้ผลล่ะ ทำไมจะไม่เอามาฝากทุกคนเล่า 555