ก็มีคนถามบ่อยๆ ว่าไปอังกฤษแค่เดือนเดียวมันจะช่วยให้ภาษาอังกฤษดีขึ้นจริงเหรอ ผมก็เลยตัดสินใจลองลงทุนไปเรียนที่ลอนดอนเต็มๆเดือนนึง มาเริ่มกันเลย
เริ่มจัดแพลนแบบฉุกเฉิน
วันพุธตัดสินใจ ควักเงินเก็บเกือบหมด วันศุกร์ก็บินแล้ว ไม่มีเวลาเตรียมตัวมาก เลือกคอร์สเร่งรัดแบบ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่นี่ค่าเรียนแพงโคตร ต้องจ่ายให้โฮสต์แฟมิลี่อีก แพงกว่าเรียนในไทยเป็นเท่าตัวแน่นอน
สัปดาห์แรกสตั๊น
วันแรกถึงนี่หน้าแตกเลย เพื่อนร่วมคลาสเยอรมัน เคนยา สเปน เค้าไปไวกันหมด ครูถามว่า “James, what’s your take on this?” ผมทำตาโตแล้วตอบแบบทื่อๆ “I think… good.” เห็นเลยว่าทักษะฟังนี่ชัดเจนมากว่าเราไปไม่ค่อยทันเขา

- ได้ฟังสำเนียงแท้ๆทุกวัน บนรถไฟ ในร้านอาหาร แม้แต่ตอนซื้อข้าวกลางวัน
- โดนบังคับให้พูดอยู่ตลอด ไม่เหมือนเรียนในไทยที่ท่องแกรมมาร์แต่ไม่กล้าอ้าปาก
- ข้อเสียใหญ่ ถ้าไวยากรณ์พื้นฐานไม่แน่น จะสื่อสารแบบงูๆปลาๆเลย
พักอาทิตย์ที่สองถึงบางอ้อ
พอครบสัปดาห์ เริ่มรับรู้สำเนียงบริทิชได้ดีขึ้นนิดนึง เวลาครูอธิบายเรื่อง tense เข้าใจขึ้นมาเฉยๆ เพราะมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่เจอในชีวิตจริง เช่น สั่งอาหารที่ร้านแล้วพนักงานถามว่า “Have you decided?” แทนที่จะงงแบบแรกๆ
แต่เรื่องเขียนเรียงความ ยังแย่อยู่ เพื่อนในคลาสเค้าส่งงานกันลื่นไหล ส่วนผมใช้เวลาเป็นชั่วโมง ครูต้องมานั่งขีดเส้นแดงแก้ให้แทบทุกบรรทัด
อาทิตย์สุดท้ายลุ้นไม่หาย
วันที่ 21 มีนัด evaluate กับครู หัวใจเต้นแรงมาก แต่พอเริ่มคุยกันปุ๊บ รู้สึกว่าฟังเค้าเข้าใจเกือบหมด พูดตอบก็เริ่มเป็นประโยคยาวๆได้ (ทั้งๆที่แกรมมาร์ยังรวน) ครูบอกว่า “Your listening improved heaps, James!” นี่แบบน้ำตาไหลเลย
กลับไทยแล้วเห็นผลชัดเจน
ตอนอยู่ไทย ดูหนังฝรั่งต้องซับไทยตลอด ตอนนี้ลองเปิดหนังเรื่องเก่าที่เคยดู กรี๊ดด! ฟังออกเป็นคำๆเลย ทั้งๆที่เมื่อเดือนก่อนยังไม่ได้เรื่อง ที่สำคัญคือ ความกล้าพูด เพิ่มขึ้นมหาศาล แม้พูดแล้วยังผิดบ้างแต่ไม่ตื่นเต้นแล้ว
สรุปแบบตรงๆเลย ถ้ามีตังค์พร้อม ไปเลย! ให้มันจมๆหน่อย เดือนเดียวมันกระตุ้นสมองได้แรงกว่าเรียนในไทยปีนึง แค่ อย่าคาดหวังว่า จะฟังรู้เรื่อง 100% หรือพูดได้เหมือน native นั่นไม่จริง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความมั่นใจกับหูที่ชินกับ authentic English ของจริง!