ตอนรู้ตัวว่าต้องเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่
เรื่องมันเริ่มจากวันก่อนไปเจอลูกค้าต่างชาติหน่ะ นี่มันฝรั่งพูดภาษาไทยไม่ออกเลยนะ ส่วนแกนี่…อ้าปากทีไรรู้สึกเหมือนกลืนลิ้นตัวเอง อึดอัดมาก พอกลับบ้านก็ทบทวน เออเว้ย เรานี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ เลยนี่หว่า เหมือนเราติดหลุมขนาดใหญ่
ตอนแรกนึกว่าเอาหนังสือเรียนเก่าสมัยมหาลัยมาขนมานั่งทนอ่าน ไอ้เราก็งงเลย เหมือนเห็นงูเห็นปลาไหลม้วนกันไปมางี้ อ่านไปสองหน้าคือถอดใจทันที ยากเวอร์ แถมศัพท์เนี่ยเหมือนภาษาลับ ยิ่งพยายามท่องยิ่งลืม ยิงกันไม่เข้าสักตัว สุดท้ายทำท่าไม่รู้พักเบรก กองหนังสือเลยกลับไปที่เก่า
มั่วลองทุกทางที่เคยได้ยินมา
พอหนังสือไม่เวิร์ก เลยย้ายไปโจมตีแอพสอนภาษาบนมือถือ ต้องบอกก่อนว่าแอพพวกนี้มันดูลวงตาดี มีรูป สีสันสวย แต่มันขัดใจเราอ่ะ เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะพอทำแบบฝึกหัดทีไร มันเหมือนโดนเอาไม้จิ้มหลังคอตลอด ไอ้เราคือผิดอยู่ดีๆ นั่นแหละ แป๊ปเดียวรู้สึกทนแรงกดดันไม่ไหว เลยผลัดมันไปวันหน้า วันหน้าผ่านไปก็ผลัดต่อ จนลืมไปเลยว่าโหลดแอพนี้มาเพื่ออะไร

- พยายามท่องศัพท์วันละหน้าก่อนนอน: ผลคือหลับคาหนังสือตั้งแต่คำที่สาม สารภาพมา!
- ฟังเพลงฝรั่งแล้วค้นเนื้อ: ได้แค่ฮัมตามทำนอง ส่วนเนื้อร้อง? มันคือภาษาต่างดาว กูไม่เก็ต!
- สั่งหนังสือใหม่เล่มหนา: แพงชิบหาย แต่สุดท้ายเอาไว้อิงโน๊ตบุ๊คเวลาเล่นเกมให้มันเสถียรขึ้น 555
จนไปสะดุดตากับอะไรบางอย่าง
วันหนึ่งมันเซ็งๆ เลยลากมือถือเล่นไปเรื่อยเปื่อย ก็ไปสะดุดตากับแผ่นนี้ที่เขาแชร์กันอยู่ อันนี้ต้องยกนิ้วให้ เพราะมันบอกว่า “พื้นฐาน ฟรี และเริ่มต้น” ทั้งสามคำนี่โดนใจเรามาก แบบว่าเวิร์คสุดๆ สำหรับคนขี้สงสัยและไม่เหลือเงินซื้อคอร์สแพงๆ อย่างเรา
เราเลยคลิกเข้าไปดูแบบไม่หวังผล พอเห็นแต่ละบทก็อุทานในใจว่า “เออ ง่ายขนาดนี้เลยหรอ?” มันเป็นแบบฝึกหัดเช็คจุดง่ายๆ แปลตรงตัว แบบไม่ต้องไปตีโจทย์ยากๆ ก่อนหน้านี้เราไปกดดันตัวเองทำอะไรที่มันเกินตัว ตอนนี้มีทางออกแค่คลิกเดียว
เริ่มลงมือจริงจังแบบทีละนิด
เราวางแผนแค่วันละบทเท่านั้น เอาให้มันไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ไม่ง่ายจนไม่ท้าทาย ตอนเริ่มใหม่ๆ เนี่ย อารมณ์เหมือนเด็กอนุบาลลากเส้นตามจุด คือทำไปหัวเราะไป เดี๋ยวโง่ เดี๋ยวถูก แต่มันไม่เคยรู้สึกแย่แบบเมื่อก่อน
ช่วงแรกมันต้องดูเฉลยบ่อยมาก บางทีทำไปสักพักก็กลับไปทบทวนเก่า แล้วค่อยมาทำต่อ เราทำแบบฝึกหัดหนึ่งบทซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าเราจะแทบจำได้หมด ส่วนใหญ่เราผิดอะไรบ้าง:
- จำ a กับ an ไม่ค่อยได้ ใช้มั่วมาก
- ลืมเติม s ที่กริยาเวลาใช้กับ she/he/it เป็นประจำ ชิบหาย!
- do กับ does นี่สับสนบ่อย ต้องมาดูคำใบ้ทุกที
เวลามันผิดเนี่ย เราก็กากบาทไว้แรงๆ สมุดเราจนเต็มไปด้วยกากบาทสีแดง เดี๋ยวนี้แทบไม่เหลือที่ขีดแล้ว มันเป็นงานที่รู้สึกว่าเราได้ลงมือทำจริงๆ มากขึ้นทุกวัน
อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ผลที่ได้
เราทำมาราวๆ เดือนกว่าๆ เนี่ย มันเริ่มรู้สึกคล่องมือขึ้นนะ เวลาทำแบบฝึกหัดเนี่ย มันเริ่มลื่นขึ้น แต่มันยังไม่ถึงกับเก่งกาจอะไรเลย ยังต้องทำผิดอยู่เรื่อยๆ แต่แค่รู้ว่าผิดตรงไหนก็ยังดีกว่าไม่รู้อะเลย
ทุกวันนี้แค่เห็นคนพูดอังกฤษในทีวี พยายามฟังให้ได้ยินคำที่รู้จัก เหมือนเล่นเกมหา treasure ซ่อนอยู่ในคำพูด ไม่ได้เข้าใจทั้งหมดแต่ก็พอเดาได้มากขึ้นว่าคือเรื่องอะไร ส่วนที่ทำงานนี่ยังไม่กล้าพูดหรอกนะ แต่อย่างน้อยเวลาเห็นอีเมลล์ฝรั่งหรือเปิดออเดอร์ขายของ ก็พอจะขยายรูปประโยคได้บ้างแล้ว

สรุปจากที่ลองทำมา: แบบฝึกหัดฟรีเนี่ยมันไม่ได้เวทมนตร์อะไร แค่เป็นเหมือนบันไดขั้นแรกให้เรายกขาขึ้นไปทีละขั้น เท่านั้นเอง มันต้องใช้ความอดทนและความขยันนิดนึง ทำผิดก็ไม่เป็นไร เพราะผิดเนี่ยคือตัวบ่งชี้ว่าเราต้องศึกษาเพิ่ม ไม่ใช่ความล้มเหลว เจอแบบฝึกหัดที่ว่า (แบบว่าเราไม่เอาอะไรแอบแฝงนะ!) นี่แหละที่เหมือนเพื่อนพายเรือช่วยให้ไม่จมน้ำ ทำให้เราเชื่อว่าการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่เนี่ยเป็นไปได้จริงๆ
