แหม..เรื่องนี้ผมมีประสบการณ์ตรงเลยนะ เมื่อก่อนนึกว่าต้องจ่ายแพงมากๆถึงจะไปเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนสอนภาษาได้ จนล่าสุดได้ไปลองหาที่เรียนราคาถูกๆมาให้เพื่อนๆฟัง
เริ่มจากอาทิตย์ที่แล้ว ผมอาบน้ำอยู่ดีๆก็นึกขึ้นได้ว่า “เฮ้ย ตอนนี้พูดอังกฤษติดขัดมากเลยนะ” หลังๆมานี่คุยกับลูกค้าต่างชาติทีไรเป็นแทบร้องทุกที เลยตั้งปณิธานว่าต้องไปเรียนซะหน่อย แต่ตังค์ในกระเป๋ามันบานปลาย…
ขั้นตอนแรก : มองหาทาง
- หาข้อมูลด่วน : กดมือถือหาหมอเด้งทั้งวัน ไม่เช็คก็เป็นไม่ได้ ชอบใช้คำค้นว่า “เรียนภาษาอังกฤษราคาเป็นมิตร” กับ “คอร์สภาษาอังกฤษไม่แพง”
- แกะรอยผ่านป้าย : เวลานั่งวินผ่านซอยเก่าๆจะสังเกตป้ายกระดาษแปะเสาไฟฟ้า เป็นเจ๋อา “ครูอ๊อดสอนอังกฤษเริ่มต้นชั่วโมงละ 100”
- ถามปากต่อปาก : ยกหูโทรหาแม่ค้าข้าวมันไก่หน้าหมู่บ้าน (เธอส่งลูกไปเรียนเสริม) เลยได้เบอร์ครูคนหนึ่งมา
สิ่งที่พบเจอ
- โรงเรียนแรก : เป็นอาคารบ้านๆใกล้ตลาดนัด มีป้าย”ABC ง่ายจัง” นี่แหละ พอเข้าไปถามราคา “อ้าว ค่าเรียน 300/ชม. แต่ถ้าเรียนกลุ่มวันละสองชม.เหลือเดือนละ 2000” ตกชม. 100 ไม่เลว แต่งบผมยังกินล้างกินผลาญไปแค่คอร์สเดียว
- เลือกเรียนฟรี : เคยเปิดกูเกิลเจอโครงการอบฟรีก่อน ที่สถาบันสอนภาษาหน้าเมืองเขาให้ทดลองเรียนฟรีครั้งแรก! แต่ไม่แน่ใจว่าเขาน่าจะยังมีอยู่ บอกตรงๆว่าผมไม่แน่ใจว่าควรเริ่มตรงไหนก่อน
- อาสาสมัครสอน : ที่โบสถ์หลังเมืองเปิดกลุ่มอาสาสมัครสอนฟรีวันอาทิตย์เช้า แต่พอเข้าคลาสไปทีไรมันเบียดเสียดมาก ไม่รู้ใครจะสอนใคร แต่ก็สนุกเหมือนกันนะ ได้เจอผู้คนเพียบ
ทางออกฉบับคนงบน้อย
ในที่สุดก็เจอทางลัด เวลาเรียนถูกๆที่โรงเรียนอนุบาล นะเฟ้ย! เชื่อไหมว่าโรงเรียนอนุบาลบางแห่งเปิดห้องเรียนตอนเย็นให้คนนอกเข้าเรียนได้เป็นกลุ่มเล็กๆ สมมติว่าเรียน 16.00-18.00 หลังเด็กเลิกเรียน จะตกคอร์สละ 2500/เดือน (เรียนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง) ได้บรรยากาศจริง แถมครูก็ใจเย็นสอนช้าๆ
ที่เขาทำได้ถูกแบบนี้ เพราะเขาใช้ห้องที่ว่างอยู่แล้วไม่ต้องเสียค่าเช่าเพิ่ม ส่วนครูเอารถกระบะมาสอนพาร์ทไทม์ คนละแผละกับโรงเรียนในห้างที่ต้องแบกราคาเช่าสูง
ผลลัพธ์ที่ได้
ตอนนี้เก็บตังค์พอแล้วจะไปเรียนแบบคอร์สกลุ่มเล็กหลังอนุบาลหน่อย ครูสาวใจดีบอกว่าจะเริ่มวันศุกร์นี้ ปกติพอใจน่ะนะ แต่เดินทางไกลหน่อยนี่สิ เบนซ์เก่าผมกินน้ำมันไปเกือบเท่าค่าเรียน 55
สรุปสั้นๆเลยนะ :
- พวกโครงการภาครัฐ (อย่างที่ครูเล่าว่ามีโครงการฝึกอบรมจากหน่วยราชการส่วนท้องถิ่น) ได้ยินว่าปีหนึ่งเขาจัดกันบ่อยๆนะ ต้องตามให้ทันข่าวแถวชุมชนนี่แหละ
- ถ้าไม่ต้องได้ใบเซอร์ ก็อาจมีหลายสถานที่เอื้อมถึงได้ราคาเท่าชามก๋วยเตี๋ยว
ส่วนตัวว่าไม่จำเป็นต้องไปจ่ายแพงมหาโหดให้เครียดไปกว่าเดิมหรอก บางทีการได้ภาษามาแบบไม่เป็นทางการ ก็สร้างเสริมกำลังใจได้มากกว่าเอ็นดู ใครยังหาไม่เจอลองไล่ส่องตามเสาไฟในชุมชน ดีไม่ดีดวงจะมาทางนั้นแถวนั้นก็ได้นี่นา