หามาหลายเดือนแล้วที่อยากเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่มีตังค์ เลยลองไปสำรวจดูว่ามีที่เรียนฟรีไหม เริ่มจากเสิร์ชกูเกิ้ลอยู่หน้าคอมตั้งสองวัน หน้าจอคอมเป็นสิบแท็บแต่ข้อมูลมันช่างซับซ้อนเหลือเกิน
เริ่มตรงที่ไม่รู้อะไรเลย
กดดูเว็บบอร์ดเก่าๆในพันทิปเจอว่ามีคนเคยแชร์รายชื่อสถาบันฟรี ตอนนั้นตื่นเต้นมาก รีบจดลงกระดาษโน๊ตยับๆสิบกว่าที่นั่ง แต่พอยื่นเอกสารสมัครกลับเจอเงื่อนไขเพียบ ทั้งต้องมีผลงานจิตอาสา ทั้งจำกัดอายุ ตอนยื่นใบสมัครแรกโดนคัดออกทันทีเพราะอายุเกินนิดเดียวเองนี่!
- เงื่อนไขหินดาด : บางที่ให้สอบวัดระดับก่อนแต่พอไปถึงกลับแจกบทเรียนเด็กประถม
- ลงทะเบียนวนเวียน : ต้องมากดรีเฟรชเว็บตอนตีสามถึงจะสมัครได้ เสียเวลาทั้งคืนแค่ได้คอร์สเบื้องต้น
- เดินชนกำแพง : นั่งรถเมล์ร้อนๆไปสามย่าน หาที่เรียนแจ่มแจ้ง แต่พอไปถึงกลับบอกว่าห้องเต็มเมื่อวาน
ทางตันแต่อย่าแพ้
เกือบถอดใจจนไปเจอป้ายเล็กๆติดตึกเก่าแถวบางซื่อ เป็นสถาบันชุมชนเปิดสอนทุกเสาร์ เช้าตรู่จอดรถตรงข้างทางเปะปะโคลนจนหม้อหุงข้าวในกระเป๋ากระแทกข้างทาง เดินตามพี่อาสาสมัครที่พาทัวร์ห้องเรียนเก้าอี้พลาสติกสิบตัว แต่ครูเอกเซนจริงๆไม่กลัวคำถาม

คลาสแรกที่เรียนฟรีเนี่ยเจอทั้งลุงออฟฟิศแม่ค้า นักศึกษาคนละเจเนอเรชั่นนั่งกันเบียดๆ กว่าจะได้พูดประโยคแรกก็ลุ้นเหงื่อแตก “ฝรั่งสอนง่ายกว่าที่คิด!” ครูลูกครึ่งอเมริกันพูดชัดเว่อร์ แต่เด็กน้อยข้างบ้านร้องเพลงดังจนครูต้องตะโกนทวนประโยค แต่ก็ฮากันได้ทั้งคลาส
หาแหล่งฟรีแบบไม่ซับซ้อน
- ศุนย์วัฒนธรรมเขต : เปิดคอร์สช่วงปิดเทอมแบบลงชื่อล่วงหน้าสัปดาห์เดียว
- โบสถ์คริสต์บางแห่ง : มีสอนสนทนาราคาบริจาคตามใจ แถมคุกกี้ฟรีด้วยนะ
- ป้ายชุมชนหน้าทำเนียบ : สำรวจให้ดีมีประกาศนัดติวฟรีประจำเดือน
เดือนนี้เรียนฟรีมาแล้วสิบกว่าครั้ง ถึงแม้บางทีตื่นไม่ทันบ้าง บางคอร์สห่างไกลบ้าง แต่สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ภาษา แต่มันทำให้รู้สึกว่าการเริ่มใหม่แบบไม่มีสตางค์ก็ทำได้ แค่ต้องลองหาจนเจอ พอเจอที่เรียนฟรีดีๆแล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว มันช่วยคนอื่นได้จริงๆนะ