ก็มีอยู่อย่างนี่แหละ พวกเราไทยเนี่ย อยากพูดอังกฤษคล่องๆ บางคนก็ลงเรียนคอร์สแพงๆ รู้มั้ยอะ ฉันเองพยายามหาวิธีฟรีๆ ในเน็ตจนเจอ เลยเอามาเล่าให้ฟัง
เริ่มต้นแบบมั่วๆ สุด
วันแรกนึกสนุกเปิดYouTubeพิมพ์ “เรียนอังกฤษฟรี” ตาแทบแตก! มีคลิปเป็นพันอัน ทั้งครูฝรั่ง ครูไทย บางทีก็เห็นครูไทยสอนสำเนียงแปลกๆ แบบไม่รู้จะเชื่อใครดี นั่งกดดูไปสามคลิป เจอโฆษณารัวๆ จนหงุดหงิดสุดท้ายปิดแท็บปังๆ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเนอะ
จัดระเบียบตัวเองใหม่
พอวันที่สองคิดได้เลยลุกไปตัดกระดาษแข็งเขียนตารางแบ่งเวลา เหมือนเอาจริง:

- ช่วงเช้า 15 นาที: เปิดแอป Google Translate เที่ยวนี้ตั้งใจจำศัพท์ที่ใช้บ่อยจริงๆ พวก “actually”, “basically” แบบฝรั่งเค้าเม้าท์กันจริงๆ แรกๆ นึกว่ายาก แต่พอเลียนเสียงตามมันส์ดี
- เที่ยงๆ ยาวหน่อย 30 นาที: หาเพลงฝรั่งโปรดใน Spotify มานั่งฟังพร้อมดูเนื้อ (เน้นว่าต้องมีเนื้อเพลงนะ!) ประเดิมด้วยเพลงช้าๆ ของ Taylor Swift ก่อน ฟังทีละประโยค แปลทีละบรรทัด เออ…เพลงนี้ความหมายไม่โรแมนติกอย่างที่คิดนะเนี่ย!
- ก่อนนอน 10 นาที: ดูซีรีส์ฝรั่งแบบเปิดซับไทยแต่พยายามฟังคำศัพท์จากปากตัวละครสลับกับอ่านซับ แรกๆ ตาลาย แต่วันหลังๆ จับทางได้ว่าเค้าพูด “What are you doing?” บ่อยกว่าที่คิด!
เจอปัญหาหนักอก
แต่พักหลังทำแค่สัปดาห์นึง ความขี้เกียจก็มาเยือน! เช้านี้ลืมดูศัพท์ ตื่นมาก็รีบกินข้าว เที่ยงขี้เกียจเปิดซับ ฟังไปงั้นแหละ คืนนั้นอยากดูแต่ซีรีส์ไม่คิดเรื่องซับแล้ว โทษฐานะตัวเองไปห้าวัน เอาใหม่! ติดกระดาษใหม่ข้างคอม “ถ้าไม่เรียนก็อย่าหวังให้พูดได้!” บังคับตัวเองให้กลับมาเซตใหม่อีกครั้ง
พอทำจริงจังไปสักสองเดือน ช่วงนึงเริ่มสังเกตตัวเอง:
- เวลาเจอฝรั่งถามทางกะทันหัน อ๋อ! พูดแบบในซีรีส์ได้ “Go straight, then turn left!” แม่งพูดออกมาโดยไม่ทันคิด!
- อ่านป้ายเมนูร้านอาหารที่พึ่งเปิด ทำไมเห็นคำว่า “spicy” แล้วรู้สึกตัวว่าเข้าใจอัตโนมัติโดยไม่ต้องแปลไทย!
สรุปแบบไม่อ้อม
ตอนนี้รู้เลยว่าเรียนเองได้จริงๆ แค่ต้องแบ่งเวลาเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ต้องไปนั่งเรียนทีละชั่วโมงให้เมื่อย จุดสำคัญคือ ต้องหาสิ่งที่ชอบมาเกี่ยวข้อง เช่น ฟังเพลง ดูหนัง เลือกเรื่องที่เราคลั่งเลยจะได้ไม่ง่วง ส่วนคำศัพท์เน้นพวกที่ใช้จริง ไม่ต้องเยอะ อย่างวันนี้รู้สึกว่าเวลาเม้าท์ม้ายังพูดไม่คล่อง ก็โฟกัสเพิ่มตรงนี้ในตาราง! ใครขี้เกียจเหมือนกัน ลองเอาเทคนิคง่ายๆ แบบฉันไปปรับใช้ได้นะ ไม่ต้องจ่ายตังค์สักบาท