ทำไมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษแบบเดิมถึงไม่เวิร์ก
ก็ตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษมาสักพักแล้วอะ เคยซื้อหนังสือแกรมม่ายี่ห้อดังๆมากองบนโต๊ะ เหมือนตัวอย่างนะ กะว่าจะอ่านให้จบเล่ม เปิดมาหน้าก็มีแต่คำว่า Present Simple นั่น Tense นี่ จุกสุดๆ ไปไม่ถึงหน้า 10 ก็ทิ้งแล้ว จำลองสถานการณ์สนทนาบนสยามสแควร์ไหม? นั่นสิ มันไม่รู้จะจำไปใช้งานเมื่อไหร่!
เจอทางออกในตีกลองยูทูบ
วันนึงดันไปเจอคลิปฝรั่งเขาสอนวิธีชงกาแฟ เห็นเขาเอาถั่วใส่เครื่อง บดปั๊บๆ แล้วพูดว่า “Now we grind it” โคตรง่ายอะ! แหมะ นี่ถ้าเริ่มจากศัพท์ใกล้ตัวก่อนน่าจะเข้าท่า เลยทดลองนั่งจดทุกอย่างในห้องครัว:
- แก้วน้ำ = glass
- เอาผ้าเช็ดจาน = wipe the plate
- ต้มมาม่า = boil instant noodles
ตอนไปเซเว่นซื้อขนมก็แอบฟังเสียงแคชเชียร์เวลาบอกราคา แล้วเอามาทวนในรถ “Thirty-five baht, please” พูดตามได้ชัดเป๊ะเลยอะ

สูตรฝึกพูดไม่มีลืม
สังเกตว่าตั้งแต่ทำแบบนี้ สมองไม่ลืมศัพท์แล้วเพราะได้ใช้จริงทุกวัน เลยจัดตารางแบบเบิร์นๆ:
- 7.00 น. : แปะโพยท์ห้องน้ำ “brush teeth / wash face”
- 12.00 น. : สั่งข้าวเที่ยงแบบเน้นคำ “rice with fried egg, no spicy”
- 19.00 น. : ดูเน็ตฟลิกซ์ 1 ท่อน → พูดตาม → เอาลงไอจีสตอรี่ (ไม่อายเพื่อนแล้วครับ ได้ภาษาไว้ก่อน!)
ยิ่งฝึกกับของจริงแบบนี้ยิ่งมันส์ บางทีเดินเห็นป้าย “No smoking” รอบ BTS ยังเข้าใจขึ้นมาเฉยๆ
ผลลัพธ์ผิดคาดหลัง 3 เดือน
ตอนแรกคิดแค่อยากฟังเพลงฝรั่งรู้เรื่อง พอทำมาเรื่อยๆ ปรากฎว่า:
- สั่งสตาร์บัคส์ได้เองโดยไม่ต้องชี้เมนู (บาริสต้ายิ้มให้ด้วยแหละ!)
- เวลาคลิ๊กโฆษณาในเฟสเริ่มเข้าใจแล้วว่าเขาขายอะไร
- เพื่อนแชร์มุกฝรั่งในทวิตเตอร์ อ่านแล้วขำได้เอง ไม่ต้องถามพี่กูเกิลแล้ว
สำคัญสุดคือไม่รู้สึกท้อเหมือนแต่ก่อน เพราะไม่มีหนังสือหนาเตอะหรือแกรมม่ามายำหัว แค่เอาชีวิตประจำวันนี่แหละมาแปลงร่างเป็นห้องเรียน!
สรุปปึ๊บ: ถ้ามือใหม่หัดอังกฤษ เริ่มจากของใกล้ตัวก่อน ดูหนังหมวดที่ชอบ เอาป้ายรถเมล์ที่เห็นทุกวันมาดูดีๆ เหมือนตอนเราเรียนไทยตอนเด็กๆ ที่แม่สอนเรียก “ข้าว” “น้ำ” ก่อนไง มันเวิร์ค!