เรื่องมันเริ่มจากเราเจอปัญหานะเพื่อน ตอนไปเที่ยวต่างประเทศทีไรเป็นต้องอึ้งทุกที พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ฟังไม่ค่อยออก เลยคิดว่าไปลงคอร์สเรียนสักทีดีกว่า เงินเก็บก็พอมีอยู่
รอบแรกลองเรียนกับครูไทยก่อน
สมัครคอร์สแพ็คเกจ 30 ชม. ในสถาบันดังกลางเมือง ครูสาววัยกลางคนน่ารักมาก เอาใจใส่แต่…สอนเหมือนตอนมัธยมเลยเพื่อน เปิดหนังสือแกรมม่าหน้ากระดาษเหลืองๆ ให้ท่องจำ
- ครูสาธิต : อธิบาย Present Simple เป็นภาษาไทยเป๊ะ อ่านตามเสียงตัวเองที่ออกสำเนียงไทยชัดมาก “ไอ หาส วี๊ด” (I have weeed)
- ของแถม : แผ่นซีดีฝึกฟังจากหนังสือ เปิดฟังเสียงฝรั่งในแผ่นเหมือนหุ่นยนต์อ่านข่าว
- จุดจบ : พอเจอฝรั่งจริงๆ ปากแข็งพูดไม่ออก แกรมม่าที่ท่องมาลืมหมด แถมฟังไม่ออกว่าเขาพูดอะไรเลย เพราะสำเนียงต่างจากในซีดี!
เดือดเลยเปลี่ยนไปลองครูฝรั่ง
โดนราคาแฉะกว่าเดิมสองเท่า แต่ยอมจ่ายเพราะทนไม่ไหว ครูสาววัย 30+ จากอเมริกา บอกตรงๆ เลี้ยงลูกมาแล้วคอนเฟิร์ม

- ช็อกแรก : คลาสแรกนั่นเหรอ บอกให้เล่นเกม “เดาอารมณ์” ด้วยการฟังโทนเสียงครูเท่านั้น ห้ามดูหน้าเลย!
- ฟังจนหูแทบหลุด : ครูเล่าเรื่องแฟนเก่าที่คบกันตอนเรียน ป.ตรี ใช้สำนวน “hit me up”, “ghosted me” ถามเพื่อนๆ นี่มันภาษาแบบไหนไม่เคยเรียนเลย
- เวิร์คที่สุด : ให้ถ่ายวิดีโอตัวเองพูดภาษาอังกฤษวันละ 1 นาที ส่งไลน์กลุ่ม ครูจะมาคอมเมนต์แบบตรงไปตรงมา “ลิ้นแข็งเกร็งไปย้อยคาง”
สรุปให้เลยแบบไม่ต้องเกรงใจ
ถ้าคิดจะเอาไปสอบ : ครูไทยโคตรดี ทุกคนก้มหัวให้เรื่องท่องสูตรลัด อัดศัพท์ขั้นเทพ
แต่ถ้าอยากใช้ได้จริง : ต้องครูฝรั่งเท่านั้นเพื่อน แม่งเจ็บตอนโดนแก้สำเนียง แรกๆ อายจนหน้าไฟลุก แต่พอมันคล่องปากเมื่อไหร่ ลิ้นมันขยับเองโดยไม่ต้องคิด
ทิ้งท้ายแบบตรงไปตรงมา : ถ้ายังอ่อนหัดเกินไป ให้จับครูไทยก่อนปูพื้นสัก 20% แต่ถ้ามีพื้นแล้ว ต้องหักดิบเอาฝรั่งเต็มตัว ทนฝรั่งด่าไวกว่าการต้องทนอายเวลาตกม้าตายตอนคุยกับฝรั่งจริงๆ เป็นไหนๆ