วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ฝึกภาษาอังกฤษจนกระทั่งใช้ได้จริงนะคะ เคยเป็นคนที่อ่อนภาษาอังกฤษมาก แค่แนะนำตัวเป็นประโยคสั้นๆยังติดๆขัดๆเลย พอนานๆไปพอนึกคำศัพท์ไม่ออกก็เริ่มท้อ
ทดลองทุกทางที่เขาว่าดี
แรกๆก็ลองไปเรียนสถาบันชื่อดังมา ลงคอร์สแพงๆเป็น萬บาท เรียนจบก็พูดไม่ได้อยู่ดี อาจารย์สอนเร็วมาก เพื่อนร่วมชั้นเก่งกันหมด ยิ่งรู้สึกอายไม่กล้าพูด บางทีพยายามยกมือตอบก็โดนเพื่อนแย่งตอบก่อน เครียดมาก!
พอมาเรียนออนไลน์ก็ลองทุกแพลตฟอร์มเลย:

- แอพเรียนศัพท์ผ่านเกมส์ ➜ เล่นเกมส์ไปได้ ศัพท์เข้าหัวไม่ถึง 10%
- ดูคลิปสอนแกรมมาร์ยูทูบ ➜ ฟังรู้เรื่องแต่พอดูจบปุ๊บ ลืมปั๊บ!
- คอร์สออนไลน์แบบวีดีโอ ➜ นั่งฟังจนง่วง เหมือนเรียนอัดวีดีโอที่มหาวิทยาลัยแถวบ้าน
จุดเปลี่ยนอยู่ที่การ “บังคับใช้”
จนวันนึงได้ยินเพื่อนบอกว่า “ภาษาอังกฤษไม่ต้องเรียนเยอะ แค่ใช้ทุกวันก็พอ” เลยลองเปลี่ยนมาทำ 3 ข้อ:
- ใช้ข้าวของเป็นภาษาอังกฤษ: ป้ายชื่อเก้าอี้ โต๊ะ กล่องดินสอ ในห้องเขียนติดสติ๊กเกอร์
- นึกเป็นภาษาอังกฤษ: เวลาคิดเรื่องง่ายๆ เช่น “เดี๋ยวต้องเปิดแอร์” ให้เปลี่ยนเป็น “I should turn on the air conditioner“
- เรียนกับครูตัวต่อตัว: หากินกินเดือดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครูให้พูดไม่เลี่ยงเลย
ตอนเรียนครั้งแรก ประหม่ามาก! ครูให้เล่าเรื่องวันเกิดของตัวเอง 20 นาที พูดได้แค่ 2 ประโยค คือ “cake good” กับ “happy” ครูฟังรู้เรื่องตลอด ยิ้มแล้วบอกว่า “no problem, try again”
อึดอยู่นิด เล่นอยู่หน่อย
พอเริ่มชิน ก็เอาของชอบมาใช้ให้เป็นประโยชน์:
- ฟังเพลง: หาเนื้อเพลงคาราบาวเวอร์ชั่นอังกฤษ กินข้าวเที่ยงก็ร้องตาม
- ดูหนัง: เปิดซับไทยซ้อนซับอังกฤษ เวลาพยางค์ไม่ชัดก็หยุดดูซ้ำ
- นั่งชิวในดิสคอร์ด: แลกเปลี่ยนเพลงกับฝรั่งที่ไม่เก่งภาษาเราเหมือนกัน
สองสัปดาห์ที่แล้วนัดเพื่อนอเมริกันไปกินข้าว เคยชวนเขาทำส้มตำล่าสุด รู้ตัวอีกที นั่งเม้าท์มอยประมาณ 40 นาทีโดยไม่รู้ตัว เพื่อนยังถามว่า “ไปเรียนหลักสูตรเร่งรัดที่ไหนมา?”
แค่นึกย้อนก็ยังขนลุกเลย พยายามจนทำได้จริงๆ ลองหาวิธีที่ใช้ได้กับตัวเอง ค่อยๆบิ๊กแอสวันละนิด สุดท้ายภาษาอังกฤษจะเป็นเรื่องง่ายไปเอง!