ก็คือวันก่อนไปเจอบทความที่เค้าบอกว่าอยากพูดอังกฤษให้คล่องต้องเรียนตัวต่อตัว เลยลองเอาวิธีนี้มาทดสอบดู เริ่มต้นง่ายๆเลยคือ ลุยหาครูฟิวนะ กดลงแอปเรียนภาษาที่เคยโหลดทิ้งไว้ (แอบเฉลยเลยว่ามีไว้ตั้งนานแต่ไม่เคยเปิด!)
ขั้นตอนแรก: หาครูให้โดนใจ
เปิดแอปขึ้นมา แทบอ้วก เพราะมีครูให้เลือกเป็นร้อยคน ตาลายหมด กะว่าจะเลือกง่ายๆดูรีวิวเฉยๆ แต่ดันมานั่งสกรอลตั้งแต่หัวค่ำยันดึกสามทุ่ม พันธสัญญาที่บอกตัวเองว่า “วันนี้แค่ดูเฉยๆ” แตกกระจุย สุดท้าย เทน้ำเทท่า กดจองครูฟิลิปปินส์คนนึงรีวิวเพียบ ราคาหนักกระเป๋าหน่อยแต่ยอมจ่ายเพราะประหยัดเวลาเดินทาง
เริ่มบทเรียนปฐมภูมิ: พูดไม่ออกสักคำ!
พอถึงคิวเรียนวันแรก หน้าแข็งกระด้าง พอครูยิงคำถามพื้นฐานแบบ “How was your day?” นี่เงียบกริบ! คอแห้ง มือเปียกไปหมด แค่ตอบ “I’m fine” ยังตะกุกตะกัก ครูแกใจดี มาก ค่อยๆลากให้พูดทีละคำ ช่วยแก้ประโยคให้ถูกหลัก แรกๆรู้สึกอายมากๆ นึกว่าความรู้ที่มีมันระเหยหมดแล้ว

สามอาทิตย์ผ่านไป: ลุยไม่ยั้งแล้ว
เรียนวันเว้นวันไป สิบกว่าครั้ง พอจะชินแล้ว เริ่มบังคับตัวเองให้ตอบยาวๆ ไม่แคร์แกรมมาร์มาก ผิดถูกแล้วแต่! คือ กล้าพูดก่อน ค่อยมาแก้ทีหลัง ตอนเช้านี้แวะคาเฟ่สั่งลาเต้แบบไม่ต้องพึ่งเมนูไทย “Can I get a large iced latte, less sweet please?” พูดรวดเดียวทุกรส แถมแคสเชียร์ยังยกนิ้วให้เฉย! (อาจเพราะเสียงสั่งสั่นๆ555) แต่ก็ปลื้มใจไปอีกวัน
สรุปแรงปะทะที่ได้มา
- ไม่หลอกตัวเอง: บอกครูตรงๆว่าแค่อยากพูดได้ ไม่เน้นสอบ เค้าก็ปรับการสอนให้ฟูลๆ
- ทนอายช่วงแรก: ช่วง 2-3 คลาสแรกนี่ทรมาน แต่พยายามเปิดกล้องไว้บังคับตัวเอง
- จ่ายแพงแต่คุ้ม: ยอมเซฟค่ากาแฟเดือนนึงมาเรียน สามอาทิตย์รู้สึกว่า สมองไม่ล็อค เวลาพูดเท่าเดิม
ข้อเสียคือ แหกตั๋ว พอเรียนเสร็จครูดันให้การบ้านมาอีก! แต่พอเห็นพัฒนาการก็ยอมทนทำนะ ต่อไปก็คงยิงยาวๆไม่หยุดแล้วล่ะ 🚀