คือวันนี้เราจะมาแชร์วิธีเริ่มเรียนภาษาอังกฤษฟรีปี 2565 กัน เริ่มจากเราเป็นคนไม่ค่อยมีตังค์นี่แหละ แต่ดันอยากฟิตภาษา เลยลุยหาวิธีเรียนฟรีแบบไม่ต้องจ่ายสตางค์
ขั้นแรก : หาแหล่งเรียนในเน็ต
แรกๆนั่งเซิร์ชกูเกลอยู่นาน ปรากฏว่าหาไม่เก่งทำเอาเวียนหัว ลองค้นคำว่า “เรียนอังกฤษฟรี” เจอเว็บแปลกๆเต็มไปหมด บางเว็บดันให้สมัครสมาชิกก่อน บางที่ก็มีโฆษณาปล่อยปิดไม่ทัน บางเว็บสอนศัพท์ระดับยากเวอร์ เข้าใจแค่คำว่า “hello” เอง
ขั้นสอง : เจอตัวช่วยเฟี้ยวๆ
จนได้ไปเจอแอปเรียนภาษารูปนกฮูกตัวหนึ่ง โหลดฟรีด้วยแถมไม่ต้องลงทะเบียนยุ่งยาก แค่เปิดมาเจอคำถามง่ายๆเลยว่า “เธออยากเรียนอะไร” เราก็พิมพ์ใส่ไปตรงๆว่า “อยากพูดอังกฤษเป็น” แอปมันก็พรีเซนต์บทเรียนให้ 4 แบบ เลือกแบบ “พูดไว” เพราะเราอยากใช้ทำงานทันใจ

วิธีใช้แอปแบบบ้านๆ
- คลิกบทเรียนแรกเริ่ม ปรากฏว่าเป็นบททักทาย “Hello, how are you?”
- เค้าให้ฟังเสียงก่อน แล้วให้เราพูดตามไล่คำ
- เดี๋ยวนะ! ตรงนี้เจ๋ง แอปมันมีฟังก์ชั่นฟังเสียงเราด้วยว่าพูดถูกไหม
- ลองพูดผิดๆเล่น “ฮาโร่” แทน “แฮลโล่” แอปดันแจ้งเตือนสีแดงทันที
ขั้นสาม : เดินหน้าต่อแม้ท้อ
เรียนไปอาทิตย์แรกเริ่มท้อละ ยากกว่าที่คิดเนอะ บทเรียนที่สี่ขึ้นมาเริ่มมีคำศัพท์เพียบ เช่น “environment” อ่านว่าอะไรไม่รู้จัก กดไอคอนรูปลำโพงฟังการออกเสียง ปรากฎว่าเราอ่าน “en-vi-ron-ment” ผิด! แอปแก้ให้อ่านว่า “เอน-ไว-รั้น-เมินทฺ” ฝึกท่องซ้ำสิบนัดจนคล่อง เอาจริงมึนแต่ก็ฮึดต่อ
ทริคที่ใช้ตอนขี้เกียจ
- วันไหนขี้เกียจมาก เราก็แค่เปิดฟังอย่างเดียว ไม่ต้องพูด
- เว้นไปสองวัน แต่ดันฝันถึงครูสอนในแอปมาดุ ตื่นมาก็รีบเปิดแอปต่อ
พอเริ่มเห็นผล
พอผ่านไปหนึ่งเดือนเริ่มใช้ได้จริงตอนเพื่อนฝรั่งมาถามทาง เดิมทีชอบตอบ “I no speak English” แต่นี่ดันพุดออกมาได้ว่า “Go straight and turn left” เค้าดันเข้าใจแล้วยิ้มให้! แม้สำเนียงยังเพี้ยนแต่ก็ภูมิใจจนตัวลอย ทำเอาเพื่อนๆถามว่าไปเรียนที่ไหนแพงไหม เราก็ปลื้มปริ่มบอกไปว่า “ฟรีครับแค่มีมือถือ!”
สรุปสำหรับเราก็คือ ถ้าอยากเรียนฟรี เริ่มจากหาแหล่งเรียนง่ายๆ อย่าเพิ่งไปซีเรียสกับเนื้อหายากๆ แอปช่วยฝึกพูดก็สำคัญ แล้วก็ห้ามล้มเลิกกลางคัน ลองพังดูบ้างไม่เป็นไร สักวันสำเนียงเราจะดีขึ้นเองแบบไม่รู้ตัว!