วันนี้อยากเล่าให้ฟังเรื่องที่ผมลองฝึกภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ เอาไปใช้จริงได้ในชีวิต จะบอกตามตรงตอนแรกมันท้อเหมือนกันนะ
เริ่มต้นแบบมั่วๆ ไปก่อน
เกริ่นก่อนเลยว่าแต่ก่อนเจอฝรั่งทีไรเป็นแข็งทุกที ยิ่งเวลาไปร้านกาแฟเนี่ย พอน้องบาริสต้าถามว่า “What’s your name?” ทำเป็นไม่ได้ยินทุกครั้ง แกล้งก้มดูเมนูยาวเลย รู้สึกตัวเองน่าอายมากๆ เลยตัดสินใจว่า เออ! ต้องเรียนสักที
ลงมือกับสองอาวุธนี้แหละ
แรกๆ มันก็มึนตึ้บ เราเนี่ยนะ เปิด YouTube คลิปสอนประโยคง่ายๆ ยัดเยียดทุกวัน อันไหนพูดบ่อยๆ ก็หยิบโน้ตบุ๊คมาจดไว้เต็มไปหมด เคยเอามาพิมพ์ทิ้งไว้ในมือถือด้วยซ้ำ ตื่นเช้ามาก็เปิดดูในรถเลย อารมณ์เหมือนท่องสูตรคูณสมัยเด็กๆ
แล้วก็ขยันจดศัพท์แปะทั่วบ้าน ตรงกระจกห้องน้ำก็แปะกระดาษสี “Toothbrush/ยาสีฟัน” ตรงตู้เย็นก็แปะ “Milk/นม” ตอนแรกแฟนเห็นยังเอะใจว่าไอ้นี่มันบ้าอะไรขึ้นมา แต่พอมันช่วยได้จริงนะ!
- คำพื้นฐานที่ใช้ทุกเช้า: wake up, breakfast, brush teeth, coffee
- เวลาเดินห้าง: how much, discount, pay by cash/card, try on
- เวลานัดเพื่อน: where to meet, what time, let’s go, wait a minute
ลองของในสนามจริงครั้งแรก
จำได้ว่าเพิ่งไปลองของเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง ตอนขับแท็กซี่กลับบ้าน ดริเวอร์เป็นปากีสถานพูดแต่อังกฤษ ตอนแรกจะแกล้งหลับนะ แต่กลัวพลาดทางก็กล้าๆ กลัวๆ บอกว่า “Turn left here, please.” เสร็จสรรพ! ง่ายกว่าที่คิดไว้ตั้งเยอะ แถมพอดริเวอร์เขาพูดว่า “Okay! No problem, sir!” มันฮึกเหิมขึ้นมาเลยถามต่อว่า “How much?” อย่างมั่นใจ พอถึงบ้านก็บอกว่า “Stop here. Thank you!” รู้สึกอิ่มเอมเหมือนชนะเลิศแชมป์โลกอะ
สรุปที่ใจไม่หลุด
ตอนนี้เจอฝรั่งก็ไม่หนีแล้ว ลองทักทายง่ายๆ ทุกครั้ง คำว่า “Hi, how are you?” พูดจนชินปาก แต่ก็ไม่คาดหวังมากว่าเขาต้องตอบกลับนะ แค่ได้ฝึกก็พอใจแล้ว ของแบบนี้ต้องทนตะกุกตะกักไปก่อน ยิ่งถ้าเป็นพนักงานร้านอาหาร ไหนจะ “Can I have water?” แรกๆ ก็ขาแข็งแต่ก้าวไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ชิน
ที่ประทับใจสุดคือได้คุยกับลูกสาวตัวเองด้วยนะ เจ้าตัวเล็กอายุสี่ขวบชอบชี้โน่นนี่แล้วก็เลียนเสียงแม่มันพูด “This is a cat!” เราก็ตอบกลับไปเล่นๆ ว่า “Yes, it is!” เห็นมั้ยมันไม่ต้องเป๊ะ แค่สื่อกันรู้เรื่อง บรรยากาศก็ดีแล้ว!