สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์สอนลูกสาวสองขวบครึ่งให้เริ่มซึมซับภาษาอังกฤษแบบบ้านๆ ที่ผมลองทำดู เอาแบบไม่เครียดเน้นเล่นไปเรื่อยๆ เริ่มจากวันนึงสังเกตว่าลูกชี้รูปแอปเปิ้ลในหนังสือแล้วพูดว่า “แอ๊ปโป” ผมก็ร้องโอ้โหเลยทีเดียว… ถ้าพ่อแม่ภาษาอังกฤษแย่แบบเรา ลูกก็ต้องพึ่งแต่ รร อย่างเดียวนี่มันไม่ไหวแล้ว
เริ่มต้นด้วยความมึนงง
วันเสาร์แรกที่ตั้งใจจะสอนก็ไปซื้อการ์ดภาพศัพท์สีๆ แพงตั้งชุดนึง พอเอาออกมาโชว์ลูก น้องคว้าฝนแป๊บเดียว… ไม่ถึงห้านาทีก็ฉีกการ์ดผักผลไม้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พร้อมส่งเสียงหัวเราะคิกคัก! ได้แปะเทปกาวตามรูปจนไม่รู้ว่ารูปเดิมเป็นสตรอเบอร์รี่หรือหัวใจแล้ว เซ็งจริงๆ เจ๊งเลยทีนี้
เปลี่ยนมาเล่นเอาจริงเอาจัง
ถอยมากองกระดาษเปล่าแล้วลองวาดรูปสัตว์ดรอวอติ้งสุดอลัง:

- แกะเอาสามขามีหูหมาพันธ์
- ปลาทองหางกระพือเหมือนใบพัดเครื่องบิน
- หมูกำยำที่ดูเหมือนหนูอ้วนๆ
ลองชู๊ะๆ แล้วร้องเพลง “Old MacDonald Had a Farm” แบบล้อเสียงไปมา สมมุติให้หมาร้องว่า “เมี้ยวๆ!” ไก่ร้อง “โฮ่งๆ!” ปรากฎว่าทำให้น้องกรี๊ดลั่นบ้านทั้งน้ำตาเล็ด บอกว่าเสียงปาป๊าน่ากลัวแบบนี้ไม่เอาแล้ว เจอไฟต์แรกก็แพ้ไม่เป็นท่า
พลิกกลยุทธ์เอาชีวิตรอด
ไปเดินตลาดนัดเจอตุ๊กตาถุงเท้าราคาถูกก็ซื้อมาเต็มกำ เอาปากกามาลากจุดตา ปาก โยนใส่ถังผ้าแล้วเล่นเกม “Fishy Fishy!” เวลาชุบมือลงไปงมทีก็รีบคว้าแล้วร้องชื่อสัตว์เป็นภาษาอังกฤษแบบสำเนียงบ้านนอก:
- คว้ากระต่ายมา “ระบิ๊ด!”
- เจอปลา “ฟิชเช่อ!”
- ปะทะหมี “แบ๊ร์แบ๊ร์!”
แค่สองวันลูกสาวเริ่มเรียกหมาตุ๊กตาว่า “เก้าๆ” แทน “หมา” แม้จะออกเสียงเพี้ยนเป็น “ด๊อคด๊อก” แต่นี่ถือว่าผมยิ้มแก้มแทบปริเลยทีเดียว น้องยังชอบเอานิ้วจิ้มตาผมเวลาเล่นเกมไล่จับ แล้วตะโกน “พีคาบูล!” ซึ่งงงอยู่พักจนมานึกได้ว่า… นี่มัน “Peek a boo!” นี่นา! ถูกต้องแม่นยำ!
บทเรียนสอนใจ
สรุปแล้วเราทำแบบนี้ต่อทุกวันจนรวน:
- เลิกกังวลเรื่องถูกต้อง – สำเนียงแปร๊นก็ช่างหัวมัน
- ผูกคำศัพท์เข้ากับจินตนาการ – ตอนนี้เวลาเห็นส้มจะร้องว่า “ออร๊างบอลลูน!” ตามแบบที่เราสอนให้จินตนาการไปด้วย
- พ่อแม่ต้องคืนสู่พื้นฐาน – มีนัดกินข้าวเย็นที่บ้านต้องตกลงกันว่าห้ามพูดว่ากินข้าว ต้องใช้ “ฮังกรี้ด” แทนแม้จะฟังดูล้อเลียนยังไงก็ไม่รู้
ตอนนี้เวลาเห็นน้องหันมามองผมทำท่าอยากเล่นแล้วถามว่า “ซั่นโม่ว่ะปะป๊า?” (What’s more?) ผมแทบน้ำตาไหล… แม้จะงงไปซักพักว่าเอ๊ะ… นี่มันเกมทายทอดของส้มหรือเปล่า? สาระไม่สำคัญเท่าเสียงหัวเราะที่ลืมวิธีเรียกว่ากันในตำราว่าอะไรแล้วแหละครับ เลิกแล้วกัน 555!