การพูดว่า “ฉันขอตัวไปทำธุระก่อนนะ” ในภาษาอังกฤษนั้นมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความสนิทสนมกับผู้ฟัง และระดับความเป็นทางการ
แบบสุภาพ/เป็นทางการ:
- Excuse me, I need to attend to something. (ขอโทษนะคะ/นะครับ ฉันต้องไปจัดการบางอย่าง) – เหมาะกับสถานการณ์ที่เป็นทางการ หรือเมื่อต้องการความสุภาพมาก
- If you’ll excuse me, I have an errand to run. (ถ้าคุณจะอนุญาต ฉันมีธุระต้องไปทำ) – สุภาพและเป็นทางการเล็กน้อย
- I must be going now, I have some business to take care of. (ฉันต้องไปแล้วตอนนี้ มีเรื่องต้องไปจัดการ) – “Business” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงธุรกิจเสมอไป อาจหมายถึงเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการ
- I need to step out for a bit to run an errand. (ฉันขอตัวออกไปทำธุระสักครู่นะ) – “Step out for a bit” หมายถึง ออกไปข้างนอกสักครู่
แบบไม่เป็นทางการ/ทั่วไป:
- I gotta go run an errand. / I’ve got to go run an errand. (ฉันต้องไปทำธุระแล้วล่ะ) – “Gotta” เป็นรูปย่อของ “got to” ใช้ในภาษาพูดทั่วไป
- I need to take care of something. (ฉันต้องไปจัดการอะไรบางอย่างหน่อย) – เป็นกลางๆ ใช้ได้ทั่วไป
- I’m off to do some errands. (ฉันจะไปทำธุระสักหน่อย) – บอกว่าจะออกไปทำธุระ
- Gotta dash, got some stuff to do. (ต้องรีบไปแล้ว มีอะไรต้องทำนิดหน่อย) – “Dash” คือรีบไป “Stuff” คือสิ่งของ/เรื่องต่างๆ ไม่เป็นทางการ
- I have an errand to run, so I’ll be off. (ฉันมีธุระต้องไปทำ ขอตัวก่อนนะ)
แบบกันเองมาก (กับเพื่อนสนิท):
- Gotta run! / Gotta jet! (ต้องไปแล้ว!) – สั้นๆ และมักจะหมายความว่ามีธุระต้องรีบไปทำ
- Catch you later, I have an errand. (ไว้เจอกันนะ ฉันมีธุระ)
- Need to pop out for an errand. (ขอแวบไปทำธุระแป๊บ) – “Pop out” คือออกไปอย่างรวดเร็วและไม่นาน
คำ/วลีที่น่าสนใจ:
- Run an errand / Do errands: หมายถึง การไปทำธุระเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไปธนาคาร ไปไปรษณีย์ ซื้อของ เป็นต้น
- Attend to something: หมายถึง จัดการ ดูแลบางสิ่งบางอย่างที่ต้องให้ความสนใจ
- Take care of something: หมายถึง จัดการบางสิ่งบางอย่างให้เรียบร้อย
- Business to take care of: แม้มีคำว่า “business” แต่สามารถหมายถึงเรื่องส่วนตัวหรือธุระส่วนตัวที่สำคัญได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานเสมอไป
คำว่า “นะ” ในภาษาไทยช่วยให้ประโยคฟังดูนุ่มนวลขึ้น ในภาษาอังกฤษ การแสดงความนุ่มนวลอาจจะมาจากการใช้น้ำเสียง หรือการเติมคำอย่าง “Sorry” (ขอโทษนะ), “if you don’t mind” (ถ้าไม่ว่าอะไรนะ), หรือแค่ใช้โทนเสียงที่เป็นมิตรในการพูด เช่น “Sorry, I gotta run an errand.” หรือ “I have to go run an errand, okay?” (เติม okay? เพื่อให้ฟังดูอ่อนลง)