การแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษมีความสำคัญในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะผู้คนใหม่ๆ การสัมภาษณ์งาน หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ การแนะนำตัวที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจแรกที่ดีได้
การแนะนำตัวทั่วไป (General Introduction)
ใช้เมื่อพบปะผู้คนใหม่ๆ ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการมากนัก หรือเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จัก
-
ตัวอย่างที่ 1: “Hello, my name is [Your Name]. It’s nice to meet you.” (สวัสดีครับ/ค่ะ ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ยินดีที่ได้รู้จัก)
-
ตัวอย่างที่ 2: “Hi, I’m [Your Name]. I’m from [Your City/Country].” (สวัสดี ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ฉันมาจาก [ชื่อเมือง/ประเทศของคุณ])
-
ตัวอย่างที่ 3: “Good morning/afternoon/evening. I’m [Your Name]. How are you today?” (สวัสดีตอนเช้า/บ่าย/เย็น ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง)
การแนะนำตัวเพื่อการทำงาน (Professional Introduction)
ใช้ในการสัมภาษณ์งาน การประชุมทางธุรกิจ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ
-
ตัวอย่างที่ 1 (สำหรับการสัมภาษณ์): “My name is [Your Name]. I have a background in [Your Field/Industry] with [Number] years of experience. I’m proficient in [Skill 1] and [Skill 2].” (ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ฉันมีประสบการณ์ในสายงาน [สาขา/อุตสาหกรรมของคุณ] เป็นเวลา [จำนวน] ปี และมีความเชี่ยวชาญใน [ทักษะที่ 1] และ [ทักษะที่ 2])
-
ตัวอย่างที่ 2 (สำหรับงานเครือข่าย): “Hello, I’m [Your Name], a [Your Job Title] at [Your Company]. We specialize in [Your Company’s Specialization]. It’s a pleasure to connect.” (สวัสดีครับ/ค่ะ ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] เป็น [ตำแหน่งงานของคุณ] ที่ [ชื่อบริษัทของคุณ] บริษัทของเราเชี่ยวชาญด้าน [ความเชี่ยวชาญของบริษัทคุณ] ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ)
-
ตัวอย่างที่ 3 (แนะนำตัวเองในการประชุม): “Good morning, everyone. For those who don’t know me, I’m [Your Name], the [Your Job Title] responsible for [Your Key Responsibility].” (สวัสดีตอนเช้าทุกท่าน สำหรับท่านที่ยังไม่รู้จัก ผม/ดิฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ตำแหน่ง [ตำแหน่งงานของคุณ] รับผิดชอบเกี่ยวกับ [หน้าที่หลักของคุณ])
การแนะนำตัวในสถานศึกษา (Academic Introduction)
ใช้เมื่อเริ่มชั้นเรียนใหม่ เข้าร่วมกลุ่มศึกษา หรือกิจกรรมในมหาวิทยาลัย

-
ตัวอย่างที่ 1 (นักศึกษา): “Hi everyone, my name is [Your Name]. I’m a [Your Year, e.g., freshman, sophomore, junior, senior/final-year] student majoring in [Your Major].” (สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ [เช่น ปีหนึ่ง, ปีสอง, ปีสาม, ปีสี่/ปีสุดท้าย] เรียนสาขา [สาขาวิชาของคุณ])
-
ตัวอย่างที่ 2 (แนะนำตัวในกลุ่ม): “Hello, I’m [Your Name]. I’m looking forward to working on this project with all of you. My main interests in this subject are [Your Interests].” (สวัสดี ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ฉันตั้งตารอที่จะทำงานในโครงงานนี้ร่วมกับทุกคน ความสนใจหลักของฉันในวิชานี้คือ [ความสนใจของคุณ])
การแนะนำตัวแบบสั้นๆ (Elevator Pitch Style)
ใช้เมื่อมีเวลาน้อย แต่อยากสร้างความน่าสนใจ สามารถปรับใช้ได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
-
ตัวอย่าง: “Hi, I’m [Your Name]. I help [Target Audience, e.g., small businesses] to [Achieve a Result, e.g., improve their online presence] through [Your Method, e.g., innovative digital marketing strategies].” (สวัสดี ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ] ฉันช่วยให้ [กลุ่มเป้าหมาย เช่น ธุรกิจขนาดเล็ก] สามารถ [บรรลุผลลัพธ์ เช่น ปรับปรุงการแสดงตัวตนทางออนไลน์] ผ่าน [วิธีการของคุณ เช่น กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรม])
ข้อควรจำเพิ่มเติม
-
ความชัดเจนและน้ำเสียง (Clarity and Tone): พูดให้ชัดเจนด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและมั่นใจ
-
การสบตา (Eye Contact): สบตาผู้ฟังอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างความเชื่อมโยง
-
ความกระชับ (Conciseness): พูดให้ตรงประเด็น ไม่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะในการแนะนำตัวครั้งแรก
-
ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ (Adaptability): เลือกใช้รูปแบบและเนื้อหาการแนะนำตัวให้เหมาะสมกับผู้ฟังและสถานการณ์นั้นๆ
-
เตรียมพร้อมสำหรับคำถาม (Be Ready for Follow-up): หลังจากแนะนำตัว อาจมีการถามคำถามเพิ่มเติม เตรียมคำตอบสั้นๆ ไว้บ้าง
-
ความเป็นตัวของตัวเอง (Authenticity): เป็นตัวของตัวเองในการแนะนำตัว จะช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ